ยอดผลิตเหล็กดิบทั่วโลกในปี 2023 ยังทรงตัว

ในปี 2023 ทั่วโลกมีการผลิตเหล็กดิบ 1,888.2 ล้านตัน อยู่ในระดับทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2022 จีนยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง สำหรับประเทศไทยผลิตเหล็กดิบ 5.0 ล้านตัน ลดลง 6.7% อยู่อันดับที่ 30 ของโลก

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2024 สมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) รายงานยอดรวมการผลิตเหล็กดิบทั่วโลก ประจำปี 2023 ปิดที่ 1,888.2 ล้านตัน อยู่ในระดับทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2022 รายละเอียดดังนี้

อันดับ 1 – จีน

จีนเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2023 จีนผลิตเหล็กดิบมากถึง 1,019.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.1% จากปี 2022 โดยจีนยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเหล็กดิบมากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดโลก 

นักวิเคราะห์ของ S&P Global Commodity Insights คาดการณ์ว่าการผลิตเหล็กของจีนจะชะลอตัวลง 0.5% ในปี 2024 เนื่องจากโรงงานต่าง ๆ มองหาวิธีจัดการกับอุปทานส่วนเกินและอัตรากำไรที่อ่อนแอ

ในระยะเวลาอันใกล้นี้ นักวิเคราะห์จาก S&P Global คาดว่าการนำเข้าสินแร่เหล็กของจีนจะอยู่ในระดับปานกลางเนื่องจากการชะลอตัวของการผลิตเหล็กที่รุนแรงขึ้นจากการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฤดูหนาว ราคาแร่เหล็กจะยังคงสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ก่อนที่จะผ่อนคลายลงในช่วงครึ่งหลังเนื่องจากการผลิตเหล็กของจีนกลับมาขยายตัวมากขึ้น การเติบโตที่ชะลอตัวของการส่งออกทางทะเลจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาราคาให้แข็งแกร่งที่เฉลี่ย 119 ดอลลาร์/ตันในปีนี้

อันดับ 2 – อินเดีย

อินเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับสองของโลก ได้เพิ่มการผลิตในปี 2023 ขึ้น 11.8% เป็น 140.2 ล้านตัน 

อันดับ 3 – ญี่ปุ่น

การผลิตเหล็กดิบในญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของโลกลดลง 2.5% เหลือ 87 ล้านตัน

อันดับ 4 – สหรัฐอเมริกา

ในปี 2023 สหรัฐอเมริกาผลิตเหล็กดิบ 80.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.2% จากปีก่อนหน้า

อันดับ 5 – รัสเซีย

ผลผลิตเหล็กของรัสเซียในปี 2023 อยู่ที่ 75.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี 

อันดับ 6 – เกาหลีใต้

ในปี 2023 เกาหลีใต้ผลิตเหล็กดิบ 66.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อนหน้า

อันดับ 7 – เยอรมนี

ในปี 2023 มีรายงานว่าสหภาพยุโรปมีปริมาณเหล็กดิบถึง 126.3 ล้านตัน ลดลง 7.4% จากปี 2022 การผลิตเหล็กในเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของยุโรป มาอยู่ในจุดที่ผลผลิตต่ำสุดในปี 2023 นับตั้งแต่ปี 2009 เหลือประมาณ 35.4 ล้านตันของเหล็ก ลดลง 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอและราคาไฟฟ้าระหว่างประเทศที่เพิ่มสูง

อันดับ 8 – ตุรกี

ในปี 2023 ตุรกีผลิตเหล็กดิบ 33.7 ล้านตัน ลดลง 4.0% จากปีก่อนหน้า

อันดับ 9 – บราซิล

ในปี 2023 บราซิลผลิตเหล็กดิบ 31.9 ล้านตัน ลดลง 6.5% จากปีก่อนหน้า

อันดับ 10 – อิหร่าน

ในปี 2023 อิหร่านผลิตเหล็กดิบ 31.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีก่อนหน้า

แหล่งที่มา.Mreport